คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่า “คนนี้มีพรสวรรค์ ดูทำอะไรก็ง่ายไปหมด” หรือ “คนนั้นโชคดีจัง ที่ได้โอกาสในงานนั้นงานนี้”
เอาจริง จากที่เคยคุยกับคนที่ถูกเรียกแบบนั้นมา ส่วนใหญ่เขามักจะรู้สึกแย่นะที่มีใครมาบอกว่า เขามีพรสวรรค์ หรือว่าเขาโชคดี
เพราะมันเหมือนเป็นการบอกว่าเขาไม่เคยต้องพยายามเพื่อได้มา ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่
แล้วอะไรคือความจริง?
บทความนี้สรุปมาจากที่ได้ฟังบทสัมภาษณ์ของอาจารย์ชัชชาติที่พูดถึงเรื่องการเป็นคนโชคดี กับบทสัมภาษณ์ของพี่บี HR – The Next GEN ที่พูดถึงการเป็นพนักงานที่ไม่ธรรมดา
สรุปได้ 3 ข้อหลัก และ 1 เคล็ดลับมาฝากกัน
1. ต้องเป็นคนอยากรู้อยากเห็น
การเป็นคนที่ชอบที่จะเรียนรู้ ชอบที่จะไปทำความเข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง โดยไม่ยึดติดกับความคิดเดิมๆ หรือแนวทางเดิมๆ
เป็นคนที่เปิดใจที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ หรือเรียกง่ายๆ ว่าต้องหัดเป็นคนรู้กว้าง เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าวันไหนคือวันที่เราจะต้องใช้ความรู้ชุดนั้น หรือทักษะชุดนี้
เพื่อเชื่อมไปสู่โอกาสหรือเพื่อสร้างผลงานอื่น อย่าง Steve Jobs ที่ทำให้ Macintosh โดดเด่นและเป็นที่จดจำสำหรับใครหลายๆ คน
ส่วนหนึ่งก็มากจากที่เขาเคยเรียนวิชาการออกแบบตัวอักษร แล้วนำมาใช้กับมันในอีก 10 ปีหลังจากนั้น
หรืออาจารย์ชัชชาติอาจจะไม่ได้เป็น CEO ของบริษัทอสังหาฯ หากไม่เคยเรียนต่อในด้านธุรกิจมาก่อน
เราไม่มีทางรู้ว่าสิ่งที่เราเรียนรู้เพิ่มมันจะสร้างประโยชน์เมื่อไหร่ เราจะได้หยิบมันมาใช้ในวันไหน
เราจึงต้องเตรียมพร้อมไว้อยู่ตลอดเวลา แต่หากวันหนึ่งที่จังหวะและโอกาสมันเข้ามา แล้วเราไม่มีทักษะหรือความรู้นั้นอยู่ เราก็จะพลาดโอกาสนั้นไปอย่างน่าเสียดาย
2. ต้องเป็นคนที่ได้รับความไว้ใจ
การที่เราจะเป็นคนที่ได้รับความไว้ใจเนี่ย จะมาได้จาก 2 องค์ประกอบ คือ
- ความสามารถ (Competency) + ความประพฤติ (Character)
หากเราเป็นคนมีความสามารถ แต่เป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่ทำอะไรเพื่อส่วนรวมเลย
หรือเป็นคนที่ช่วยเหลือผู้อื่นตลอด คิดถึงส่วนรวมตลอด แต่เนื้องานไม่ได้ ผิดพลาดเป็นประจำ ก็จะไม่ได้รับความไว้ใจ
แต่หากเรามีทั้งสององค์ประกอบนั้น เราก็จะได้รับความไว้ใจซึ่งจะนำไปสู่การได้รับโอกาสในงาน และโอกาสอื่นในชีวิตอย่างแน่นอน
3. ต้องเป็นคนกล้าคว้าโอกาส
หลายๆ ครั้ง โอกาสมักจะมาในรูปแบบของสิ่งที่เรายังไม่รู้ เช่น มีโอกาสได้ไปทำงานต่างประเทศ มีโอกาสได้รับผิดชอบงานใหม่ๆ มีโอกาสได้ทำงานที่ไม่เคยทำ
แน่นอนว่าการทำในสิ่งที่ไม่รู้เนี่ย มันน่ากลัวเสมอ เพราะเราก็ไม่รู้ไม่มั่นใจว่าเราจะสามารถทำได้ รับผิดชอบได้ . . .
แต่เชื่อเถอะว่าการที่เขาให้โอกาสนั้น นั่นแปลว่าผู้ให้ก็มองเห็นแล้วว่าเรามีศักยภาพที่จะทำ ซึ่งหลายคนมักจะปฏิเสธไปเนื่องจากความกลัว หรือมองไม่เห็นความสำคัญ
โอกาสมันเหมือนลูกหิมะ ที่ตอนแรกมันอาจจะเป็นเพียงหิมะก้อนเล็กๆ แต่หากเพียงได้เริ่มกลิ้ง มันก็จะนำไปสู่โอกาสเล็กอันถัดไป ถัดไป และขยายขึ้นเรื่อยๆ
จนกลายเป็นโอกาสใหญ่ในที่สุด เราไม่สามารถรอให้โอกาสใหญ่มารอบเดียวในทันทีได้ เพราะมันจะไม่มีมาแบบนั้น โอกาสส่วนใหญ่ไม่ได้มาในรูปแบบนั้น
เคล็ดลับ ต้องเป็นคนที่สื่อสารเป็น
ข้อนี้อาจไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นตั้งแต่วันแรก แต่จะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในทุก ๆ อย่าง เพราะหากเราสื่อสารได้ดี ชัดถ้อยชัดคำ ตรงไปตรงมา
คนเข้าใจที่เราต้องการจะบอก กล้าถามกล้าพูดอย่างจริงใจ และมีอารมณ์ขันบ้างเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหมดนี้จะพาเราไปสู่โอกาส ความไว้ใจ
และคนที่พร้อมจะแบ่งปันความรู้ให้เรา